วันที่ 7 ธ.ค. 59 Nikko ~

วันนี้ถึงคิวไปเยือนนิกโก้ ~ ตื่นแต่เช้า แล้วไปกินข้าวเช้า เป็นอาหารชุด อร่อยพอได้

ชุดนี้ราคา 370 เยน เอง

ทานเสร็จก็พร้อม เดินทางตรงไปสถานี JR Line เพื่อขึ้นชินคันเซนวันสุดท้ายแล้วว

รอในสถานี แม่อยากทานกาแฟร้อน ก็มีเครื่องชงกาแฟแบบตู้กดให้

ลองซะหน่อย คาราเมล ลาเต้ร้อน~

รอเครื่องมันชงให้

เรียบร้อยย หวานเลย แม่กินเลยย หวานนนน

รถชินคันเซนมาแล้ววว


มุ่งหน้าสู่อุสึโนมิยะ


ต่อรถไฟสาย Local เพื่อไปยัง Nikko


ถึงแล้ววววว World Heritage 😊


อากาศเย็นมากกก ชอบบบ ประมาณ 6-7 องศา

เดินต่อประมาณ 2 กิโล เพื่อไปขึ้นรถชมรอบ Nikko


ถึงป้ายเบอร์ 85 แล้ว ลงได้ Rinnouji Temple

บรรยากาศสวยมากกก ร่มรื่นน



จะเข้าวัดได้ต้องจ่ายตังงงง คนละ 550 เยนน 😒

เมื่อจ่ายแล้วก็เข้าได้


บันไดขึ้นวัดหลายขั้นมาก นับรวมแล้วได้ 108 ขั้น (มะรู้ถูกมั้ย 555)

จากนั้นก็ไปดูต้นสน 700 ปี เสียค่าเข้าชมอีก 200 เยนนน

นึ่ไงต้นสน 700 ปี !!


เดินต่อเข้าไปอีกนิดจนสุด จะเจอกับดาบซามูไรเล่มใหญ่มากก ไม่รู้ประวัติ เพราะเข้าไปกับแม่แค่ 2 คน น้องไม่เข้าด้วย (55)

นึ่ไงดาบซามูไร 😉


เดินดูซักพัก ก็ได้เวลาเดินไปวัด Toshogu

เดินผ่านทางเดินนักปราชญ์ เดินผ่านแล้วจะกลายเป็นนักปราชญ์มั่ยน้า


เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วว วัด Toshogu

เสียค่าเข้าชมอีก 1,300 เยน


ภายในบริเวณวัด


เสียตัง 1,300 เยน เพื่อมาดูสิ่งนี้!!!

ลิงปิดหู ปิดปาก ปิดตา 😝


เจอมิโกะ เดินอยู่ เก็บภาพได้แค่ด้านหลัง ☺️


มิโกะที่นี่ ห้ามบุคคลถูกเนื้อต้องตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย 😱 มิน่าตอนจ่ายเงิน เค้าบอกให้ใส่ลงในถาด ไม่รับเงินจากมือ 😓

เดินเข้าไปอีก เค้าให้เข้าชมภายในอาคารของวัด แต่ต้องถอดรองเท้า เราเลยไม่ได้เข้าไป ขี้เกียจถอด (55)


พอไม่ได้เข้าไปดูตัวอาคาร เรากับพ่อเลยเดินไปอีกทาง แล้วเจอทางขึ้นไปอีก

มีผู้หญิงญี่ปุ่น 2 คนเดินสวนกัน แล้วผู้หญิงด้านหน้าเรา คงถามประมาณว่า ข้างในเป็นยังไงบ้าง คนที่สวนลงมาบอกว่า “สุโค่ย”

เราเลยหันไปบอกพ่อว่า เค้าบอกสุดยอดเลย เราไปกันบ้างเหอะ พอเดินเข้าไป โอ้โหห บันได !!

เอาวะ เดิน สู้ตาย !!


ในที่สุด ก็ขึ้นมาถึง 😥

เป็นสุสานอะไรซักอย่าง (ไม่มีคนแนะนำ 😭)


เดินวน 1 รอบ ก็เจอกับร้านขายเครื่องรางแมวหลับ -.- ไม่ขึ้นมาถึงนี่ ไม่ได้เครื่องรางแบบ original นะ 😱

หน้าตาเครื่องรางง

เมื่อลงมาจากยอดเขาแล้วก็เตรียมตัวเดินทางไปดูสะพานแดงต่อ

ผ่านด้านหน้าวัดมีป้ายต้อนรับเป็นภาษาไทยด้วย

ภาษาไทย 😱


นั่งรถลงจากเขา เริ่มหิวแล้ว กองทัพเดินด้วยท้อง หาร้านข้าวกินแถวสะพานแดงนั่นล่ะ 😝

รวมข้าวของทุกคน


อร่อยย ใช้ได้ 😝

หลังจากอิ่มเรียบร้อย ก็เดินไปชมสะพานชินเคียว (สะพานแดง)


สวยงามมาก

ขากลับแวะกินเกี๊ยวซ่าจ้า

This slideshow requires JavaScript.

เสร็จเรียบร้อยก็กลับโรงแรมนอนได้

เหนื่อยมากเลย

By : Seria

วันที่ 6 ธ.ค. 59 ภูเขาฟูจิ !!

วันนี้ตื่นแต่เช้า เราพะต้องไปภูเขาฟูจิ ที่สำคัญเป็นวันทำงาน คนญี่ปุ่นที่ไปทำงานจะเยอะ นรกมากกกก

ใช้บัตรเบ่ง (55) ขึ้นรถไฟไปลงชินจูกุ สถานีนรก คนเยอะมาก ถ่ายรูปไม่ทัน เพราะต้องรีบขึ้นรถไฟซุปเปอร์เอ็กเพรสไปลง โอเซกิ (Otsuki) น้องไม่เคยมาอีกเช่นเคย เผื่อเวลาไปหลงทาง (55)

ต่อรถ Local เพื่อขึ้นภูเขาฟูจิ


รถไฟ Local หวานเย็นมากกก แต่ในที่สุดก็เห็นภูเขาฟูจิแล้วว อากาศเหมือนจะไม่เป็นใจเลย


เมฆบังยอดภูเขา ขึ้นไปจะเห็นมั้ยเนี่ย

เอาล่ะ ถึงสถานีที่ต่อรถบัสขึ้นภูเขาฟูจิชั้น 5 แล้ว ที่สถานีมีขนมเพียบเลย


น้องซื้อตั๋วรถบัสได้ (เย้) สรุปได้ขึ้นชั้น 5 ฟูจิ รถบัสออกทุกนาทีที่ 50 เมื่อได้เวลาก็เตรียมขึ้นรถได้


นั่งรถชมวิวข้างทาง ตอนแรกก็คิดว่สไม่หนาวมาก แต่พอยิ่งขึ้นไปใกล้ชั้น 5 แม่เจ้าหน้าต่างงี้มัว

วิวเริ่มมัวละ


ถึงแล้วชั้น 5 ฟูจิ บรรยากาศทะมึนมากก


หวังว่าจะได้เห็นยอดภูเขาฟูจิ แต่เมื่อมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว รีบกินข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนเยอะ


สาหร่ายสลักบอกว่า ตอนนี้คุณอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3.776 m (น่าจะใช่)

อาหารอร่อย ใช้ได้ กินร้อนๆ ยิ่งดี ราเมงโอเค 😊

ทานเสร็จก็ยังทะมึนอยู่ หนาวมากด้วย เลยเดินไปไหว้พระก่อนดีกว่า


แล้วก็ขึ้นไปจุดชมวิว ฟูจิยังทะมึนอยู่


เอาน่ะ ยังไงก็ได้ขึ้นมาละ เท่านี้ก็พอใจ อะ เตรียมตัวกลับ ก็ถ่ายรูปซะหน่อย


ฟูจิมีเมฆลอยบังยอด แต่เอ๊ะๆๆ เหมือนจะมีแสงอาทิตย์ส่องมา เอ้ย ลุ้นๆๆๆ เผื่อจะเห็นยอดดดด


ในที่สุด!!!!


อะโห!!! เมฆหายไปไหนหมดดดด ท้องฟ้าเปิดให้เห็นยอดฟูจิอย่างไม่น่าเชื่อ

แหม่ สมกะที่แม่มาด้วย ไม่มีใครล้างฉายาลูกพระอาทิตย์ของแม่ได้เลย คนอื่นไปที่ที่หิมะตก แม่ไป กลับไม่มีหิมะ แถมอากาศแจ่มใส พระอาทิตย์แจ่ม

แต่คราวนี้โชคดีมากก ได้เห็นยอดภูเขาฟูจิ เลยเก็บภาพมาซะเยอะเลย ภาระกิจสำเร็จจจจ

ถ่ายรูปย้อนแสงด้วยไอโฟน 6s นี่แจ่มจริง ของเขาดีจริงนะเนี่ยยย 😏

fin~

หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ก็ซื้อของที่ระลึก

มีปิกาจูด้วย


ฟูจิคริสตัล

ระหว่างรอกลับจากภูเขาฟูจิชั้นเจอเครื่องแลกเงินด้วย เลยทดสอบซะหน่อยย

หน้าตาเครื่อง


เลือกภาษาอังกฤษ


ทำขั้นตอนเลยยย ลองแลก 100 บาท


ได้ตัง 259 เยน ขาดทุนในการแลกเงิน เพราะ 100 บาท แลกที่ไทยควรได้ 320 เยน

เพราะฉะนั้น เครื่องนี้เหมาะกับผู้ที่มาแล้วเงินเยนหมด และต้องการใช้เงินเยนเร่งด่วนน ไม่งั้นจะขาดทุนนะค้าา

รถไฟมาแล้ว เราก็ลาจากฟูจิ ส่งท้ายด้วยรูปถ่ายด้านล่าง


😊😊

ขากลับแวะทานข้าวที่โอเซกิ เลือกร้านกินตามอัธยาศัย ด้วยความอยากกินหมี่เย็น เลยจัดซะ


อร่อยมากกก แต่กินไม่หมดด ส่วนเต้าหู้เย็นเป็นของคุณแม่ (บอกกินข้าวเย็นไม่ลง)

กลับมาถึงอุเอโนะ ก็ shopping ยูนิโคล่ซะ เสื้อ 1 ตัว กางเกง 1 ตัว เพราะพรุ่งนี้ต้องสู้ศึกกับความหนาวอีกแล้ว
วันนี้ดีใจมาก ที่เห็นฟูจิแบบเต็ม Lucky สุดๆ

By : Seria

วันที่ 5 ธ.ค 59 เมืองคารุอิซาวะ และหมู่บ้านเอโดะ

วันนี้เป็นวันแรกของการขึ้นรถชินคันเซน!! 

รถไฟหัวจรวดดดด ตอนเช้าเลยกินข้าวแบบง่ายๆ ไก่ทอดกับซาบาเปาหมูสับจาก 7-11 ไม่ไปกินลอว์สันแล้ว เพราะเมื่อวานพนักงานทำหน้าเหมือนไม่อยากจะขาย (-,-)

บัตรเบ่ง -0-

หน้าตาบัตรผ่านใช้งานได้ทุกสถานี ขึ้นรถไฟได้ทุกวฝสายฟรี เนื่องจากเราจ่ายตังไปก่อนแล้ว -0- (3,000 บาท)


ผ่านด่านเข้า ชินคันเซน ก็เตรียมขึ้นรถไฟ


รถไฟมาแล้ว รถหัวจรวด


หัวขบวนชนกัน พอไปถึงสถานี (อะไรซักอย่าง) ถึงจะแยกสายกัน ไปคนละทาง -0-

นั่งชินคันเซนไปประมาณ 50 นาที ก็ถึงคารุอิซาวะแล้ว ที่นี่มีชื่อเรื่อง outlet และกินซ่า สำหรับ shopping 

ถึงแล้วคารุอิซาวะ


เดินไปดูกินซ่าต่างจังหวัด


จากกินซ่าก็เดินมา outlet


เที่ยงพอดี ต้องรีบกินข้าวแล้วกลับ เนื่องจากจองตั๋วรถไฟไว้


มื้อนี้ฟินมากกกก กุ้งอร่อยสุดๆ ผักสลัดก็เยี่ยมมม ฟิน~

เสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถไฟไปต่อรถที่โอมิยะ เพื่อไปเมืองคาวาโกเอะ เยี่ยมเยียนหมู่บ้านเอโดะ

ออกจากสถานีรถไฟ มีงงค้าบ เพราะน้องก็ไม่เคยมา ดูแผนที่ก็งง 


อะ จับจุดได้ว่า ต้องผ่าน kawagoe nwe city hotel แต่ก็หากันไม่เจอ เราเลยเดินไปถามคนที่กำลังยืนโฆษณาอะไรซักอย่าง

เรา : ซุยมาเซ็ง

เขา : ไฮ้

เรา : Do you know kawagoe new city hotel?

เขา : ทำหน้างงไปซักพัก แล้วตอบว่า “I know the princess hotel but I don’t know kawagoe new city hotel, sorry.

เราเอ๋อไปเลย แบบว่าในสมองประมวลว่า เอ้าก็ map มันบอกงั้นนิหว่า แล้วน้องเราก็เดินมาพอดี และถามเขาว่า We want to go to little ado. 

เขาทำหน้าแบบ อ้ออออ แล้วตอบ Ok พร้อมกับอธิบายทางให้ (-,-)

สรุปเดินผ่านถนน ครีมอลล์ (crea mall) ไปเรื่อยๆ ก็จะถึงหมู่บ้านเอโดะ


และแล้วก็ถึงหมู่บ้านเอโดะแล้ว เย้!



ขณะเดินๆ อยู่ กำลังจะเดินผ่าน ก็เห็นคนยืนถ่ายรูปฝั่งตรงข้ามอยู่ แล้วพ่อเราไปเดินตัดหน้ากล้อง

เรา : พ่อ หลบให้เค้าถ่ายรูปหน่อย

เขา : ไม่เป็นไรครับ เดินเลนครับ

เรา : !!! อ้าวว คนไทย -0-

ถึงกะฮา ขำกันเข้าไป พอเดินไป สวนคนไปมา ก็ได้ยินคนพูดไทยเยอะนะ เอ้อ คนไทยเยอะดีแฮะ

หอระฆัง hi-light ของเมือง แต่อยู่ระหว่างปิดปรับปรุง เลยไม่ได้ขึ้นไปตีระฆังเลย -3-


หลังจากดูความโบราณของบ้านเมืองแล้วก็ขึ้นรถบัสกลับสถานีรถไฟได้

นั่งชินคันเซนกลับอย่างรวดเร็ว กลับมาถึงอุเอโนะ ก็ 5 โมงเย็นกว่าๆ แต่บรรยากาศข้างนอก ยังกะ 2 ทุ่ม -.- หิวมาก หาร้านกินข้าวเย็นก่อนน

กินที่ห้าง atre นี่ล่ะ


มื้อนี้ไก่อร่อยยย ไส้กรอกพอกินได้ สเต๊กแฮมเบิร์กก็โอเค แต่เลี่ยนน้ำซอสที่ราดไปหน่อย

กลับถึงโรงแรม ปิดท้ายด้วยโอเด้งหัวไชเท้าและไข่ต้ม อร่อยมากกกกก


มีผลไม้ล้างปากคือส้มคิวชู อร่อยโฮก ก่อนจะได้ส้มมาคือแบบ เห็นกองส้มวางอยู่หน้ารีเซฟชั่น 

แฟนน้องก็ถามว่า เค้าแจกส้มหรอ 

น้องชายตอบว่า  น่าจะแจกคนที่เพิ่งเข้ามาพัก

เราก็แบบ อยากกินอะ

แฟนน้องส่งสายตาไปมอง เราก็มองด้วย จนพนักงานต้อนรับบอกว่า เอาไปทานได้ (ภาษาญี่ปุ่นปนอังกฤษ) เรากับแฟนน้องเลยหยิบกันคนละ 2 ลูก และบอกว่า อาริงาโตะ ^_^


อร่อยมากกกกก 😊

แม่กับพ่อกลับมา ก็หยิบมาอีกคนละลูก 

ฟิน~ ภาระกิจจบ พร้อมกับของหย่อย

เตรียมตัวเข้านอน เพราะพรุ่งนี้มีภาระกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าา

คร่อก~

By : Seria

วันที่4 ธ.ค. 59 ฮาราจูกุ วัดเมจิและ shopping !!

วันนี้ วันอาทิตย์ ต้องไปฮาราจูกุ และ shopping 

เพราะฉะนั้น เติมพลังตอนเช้าด้วยข้าวชุดใหญ่ แต่ราคา 420 เยน


หลังจากทาน : ปลาเค็มมากก (ทำเกลือตกใส่เรอะ) เต้าหู้เย็นก้อนใหญ่มากกกก ข้าวถ้วยใหญ่มากกก นี่มันอาหารคนใช้แรงงานนนนนชัดๆ -.-

อิ่มแล้ว พร้อมออกเดินทางได้


ค่ารถไฟไปฮาราจุกุ 200 เยน วันนร้เป็นวันอาทิตย์ คนจะเยอะมากกกกก


มาถึงแล้ว วัดเมจิ

เดินเท้าเข้าไปประมาณ 1 กิโล ถึงจะเจอวัด


ถึงแล้ววัด


เข้าไปไหว้พระ ขอพรเสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมเดินทางต่อ ไปถนนคนเดินฮาราจูกุ แหล่งช้อปปิ้ง

ก่อนเข้าไปข้อปปิ้ง ต้องทานอาหารกลางวันก่อน ไม่งั้นคนเยอะ น้องพาไปกินราเมงชื่อดัง คนต่อคิวกันเยอะ 



รอคิว เห็นคนนั่งทานด้านนอกแล้วคิดในใจว่า คงกดดันน่าดู ต้องรีบกิน รีบลุก! เพราะคนต่อคิวรอทานอยู่เพียบบบบบบบ (-0-)

ในที่สุดถึวคิวเราแล้ว ของเราสั่งแค่ 2 ที่ เพราะเรา พ่อ แม่ ทานไม่หมด ชามใหญ่มาก คนขายก็รู้ใจ หยิบชามแบ่งมาวางให้เลย


อาหารมาแล้วววว ชามใหญ่มากก


แบ่งแล้ว โซ้ยเลยค้าา 

หลังทาน : รสชาติเหมือนต้มยำบ้านเราแบบลืมใส่มะนาว (-,-) เลยต้องหยิบน้ำส้มสายชูใส่ลงไป ค่อยดีหน่อย แต่ความมันเยิ้มก็เยอะ -‘- แต่รวมๆ ก็พอได้ล่ะ

จากนั้นก็เดินไปถนนคนเดิน


คนเยอะมากกกกก

เดินมาซักพัก ก็เจอร้านเครปชื่อดัง ต้องลองสิ


อร่อยมากกกกก ฟิน~

จากนั้นเดินทะลุออกไปอีกทาง ก็ไปเจอร้าน Line Friend store (-0-) แวะๆ ต้องแวะเลยยยยย


เข้าไปเจอหมี brown นั่งหน้ามึนตัวใหญ่คอยต้อนรับอยู่


ของในร้านราคาแพงพอได้


เดินเล่นดูของซักพักก็ได้เวลา shopping ของที่ตัวเองตั้งใจมาซื้อแล้วว ไปร้านเครื่องสำอางค์โลดดด

น้องพาไปตึกม่วงก่อน บอกว่าค่อยเดินกลับมาดูได้ ก็อะ ไปก็ไป ของก็มีขายคล้ายๆ บ้านเรา


ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่าง (55)

เดินมาก เริ่มเหนื่อย หิวแล้วว หาข้าวกินดีกว่า 


หลังทาน : ไก่ทอดอร่อยมาก เกี๊ยวซ่าธรรมดามาก หมี่ผัดมันเยิ้มมาก ไม่ไหว (>.<~)

อิ่มเสร็จก็ไป shopping ได้


สรุป shopping ไปทั้งหมด 23,483 เยน (รวมหลายคน)


ห่อกลับได้ เหนื่อยมากกก เดินซะ ขาลาก (-.-)

หมดอีก 1 วัน สลบพักได้

By : Seria