บันทึกจากใจเกี่ยวกับโควิด 19
ไม่เคยคิดว่า โรคนี้จะใกล้ตัวเราขนาดนี้
เห็นข่าวทุกวัน ก็รู้สึกหดหู่ และเศร้าใจอยู่แล้ว
ได้แต่ระวังตัวเอง เพื่อครอบครัว..พ่อ แม่ น้อง
เพราะเราเป็นคนเดียวที่ยังต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
ในขณะที่น้อง WFH และที่อื่นส่วนใหญ่ก็ WFH
กระทั่งวันหนึ่ง…
พ่อเราไม่สบาย พ่อเราเป็นคนเข้มแข็งมาก
พ่อบอกว่าพ่อเป็นไซนัส โรคประจำตัวกำเริบ
ซึ่งเราไม่เอะใจครั้งแรก พ่อไปหาหมอคนเดียว หมอให้ยาอักเสบมา เพื่อบรรเทาอาการปวดผ่านไป 5 วัน อาการพ่อไม่ดีขึ้น
แม่บอกให้เราพาพ่อไปหาหมอ ซึ่งเราก็บังคับให้พ่อไปหาหมอหมอบอกว่า เป็นอาการไซนัสอักเสบ
แต่ที่สงสัยคือค่าออกซิเจนในเลือดต่ำมากจนผิดปกติ แต่พ่อเราบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย
สุดท้าย…เราไม่มั่นใจ เลยตัดสินใจพาพ่อไปตรวจหาโควิด 19
ผลออกมาคือ ติดโควิด
ที่สำคัญ น้องและแฟนน้องเราก็ติดโควิด
โชคดีที่หาเตียงได้ทันเวลา จึงเข้ารับการรักษาทั้ง 3 คนที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ – Princ Hospital Suvarnabhumi
ส่วนเราก็ต้องกักตัว 14 วันที่บ้าน (เราไม่ติดเชื้อ) ตามมาตรการของรัฐ
ระหว่างที่รับการรักษา…พ่อเราเข้า semi icu เพราะปอดติดเชื้อ 80%
น้องกับแฟนน้อง ก็เข้ารับการรักษา เพราะปอดติดเชื้อเช่นกัน
เราได้แต่สวดมนต์ ภาวนาทุกวัน ขอให้ทุกคนหายดี และกลับบ้านไวๆ
ในที่สุด…เชื้อโควิดของทั้ง 3 คนก็ไม่มีแล้วน้องกับแฟนน้องเตรียมออกจากโรงพยาบาล
แต่…พ่อของเรา ปอดเสียหาย 80% ต้องรอเวลาให้ปอดฟื้นฟูพอ
น้องเรากลับมา น้องก็บอกว่า”หมอบอกว่า เชื้อโควิดของพ่อหายหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ฟื้นฟูปอดให้กลับมา โดยขอเวลาดูอาการ 3 วัน” ซึ่งที่บ้านเราก็โอเค รอฟังผลจากหมอผ่านไป 3 วัน
หมอได้โทรคุยกับแม่ บอกว่า “ถ้าจะประคับประคองไว้ ต้องเจาะเพื่อสอดท่อหายใจ และฟอกไต”
แม่เราเลยบอกว่า “ถ้าต้องให้พ่อทรมาน ก็ปล่อยเขาไปแบบสบายน่าจะดีกว่า”ทางรพ.เลยแจ้งว่า จะนัดไปเซ็นเอกสารยินยอม
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรวันที่ 18 ก.ค. คุณพ่อก็สิ้นใจตอน 5 ทุ่มครึ่ง
น้องมาบอกเรากับแม่ตอนเช้าว่า คุณหมอโทรมาแจ้งเมื่อคืน ว่าพ่อไปสบาย ค่อยๆ หมดลมหายใจเอง
การจากลา…มาไวกว่าที่คิด
การจัดการเรื่องของคุณพ่อต้องรวดเร็ว เพราะเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด
วันที่ 19 ก.ค.
– ต้องไปทำเอกสารใบมรณบัตร เคลียร์ค่าใช้จ่าย และรับสิ่งของใช้ส่วนตัวของพ่อให้เสร็จ
– ต้องติดต่อหาวัด เพื่อฌาปนกิจศพของพ่อ ซึ่งโชคดีที่พี่ที่ทำงานของน้อง แนะนำมาว่าให้ติดไปยังศูนย์ประสานงานด้านโควิด-19 ของกองทัพบก
– เราเลยติดต่อไปตามคำแนะนำ ซึ่งทางศูนย์ได้ประสานงานและได้จองคิวรถมารับศพของพ่อที่รพ. รวมถึงจองคิวฌาปนกิจศพที่วัดโสมนัสได้ในเวลา 15:00 น.
วันที่ 20 ก.ค.
– ต้องติดต่อหาคนมาช่วยยกโลงศพให้พ่อ เนื่องจากทางทบ. จะส่งมาแค่ทหารที่มารับศพ ไม่มีคนช่วยยกโลง
– ก่อนเที่ยงไปถึงรพ. ต้องรอรับศพ 2 ชม. เพราะเจ้าหน้าที่รพ. ทำงานหนักมาก ทำให้ไม่มีคนมาช่วยยก กว่าจะได้นำศพขึ้นรถก็ 14:00 น.
– ไปถึงวัดโสมนัสเวลา 14:45 น. ศพของพ่อไปถึงในเวลาไร่เรี่ยกัน
– ทหารเป็นผู้ดำเนินการทำพิธีฌาปนกิจให้ โดยชี้แจงขั้นตอนที่ต้องทำทั้งหมด ซึ่งเป็นพิธีที่เรียบง่าย แบบที่พ่อเราต้องการ
วันที่ 21 ก.ค.
– ไปรับอัฐิของพ่อ และนำกลับมาทำพิธีที่วัดแถวบ้าน
– บริจาคเงินทำบุญที่ทุกคนร่วมทำบุญมาให้กับวัดโสมนัสทั้งหมด
3 วันที่ต้องจัดการเรื่องของพ่อให้เสร็จถึงจะเหนื่อย
แต่ทุกคนในบ้านก็เต็มใจที่จะทำหลังจากเสร็จธุระแต่ละวัน ต้องกลับมาแจ้งให้เพื่อนพ่อ และลูกศิษย์ของพ่อรับทราบข่าว ซึ่งลูกศิษย์ของพ่อเยอะมาก
ขอให้คุณพ่อไปสู่สุขคติค่ะ
ด้วยรักค่ะ
-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑- ๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-๑-
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้
1. ทุกคนควรป้องกันตัวเองให้เยอะๆ เพราะโรคนี้ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
2. ตัวเองควรป้องกันอย่างสูงสุด เพราะโรคนี้ไม่ใช่แค่เราที่เสี่ยง แต่มันหมายถึงคนในครอบครัวของเราทุกคนที่ต้องเสี่ยงไปกับเราด้วย
3. ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่เกิดกับตนเอง ก็จะไม่มีวันรู้หรอก ว่ามันเป็นยังไง
4. “อย่า หา ทำ”
สิ่งที่เราอยากขอบคุณ
1. ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนค่ะ ที่ส่งเงินมาร่วมทำบุญกับเรา โดยเรานำไปบริจาคให้กับวัดโสมนัสทั้งหมดค่ะ
2. ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้ค่ะ
3. ขอบคุณ ทบ. ที่ดำเนินการจัดการเรื่องฌาปนกิจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
4. ขอบคุณรัฐที่ให้ความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาโควิด 19 ทั้งหมด (ทำดี เราก็ควรชื่นชม)
5. ขอบคุณคุณหมอ และพยาบาลมากๆ ค่ะ ที่ช่วยดูแลน้องและคุณพ่อมาตลอด 15-18 วันค่ะ
สุดท้ายนี้
เราหวังว่า ทุกคนจะปลอดภัย และผ่านโรคนี้ไปได้ด้วยกันค่ะ
By SeRia ค่ะ